พ่ายแพ้ในบ้าน! ทีมยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกาต้องตกรอบอย่างช็อกเมื่อไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นล้างแค้นสำเร็จ; ทีมมูลค่า 500 ล้านยูโรไร้พลังพลิกสถานการณ์_โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์_การแข่งขัน_ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
ในรอบที่สามของการแข่งขัน DFB-Pokal ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในเกมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ดอร์ทมุนด์ทำผลงานได้อย่างน่าชื่นชมในบุนเดสลีกาฤดูกาลนี้ โดยเก็บชัยชนะได้ 7 นัด เสมอ 4 นัด และแพ้เพียง 1 นัด อยู่ในอันดับที่ 3 ของตาราง ตามหลัง RB ไลป์ซิกเพียง 1 คะแนน อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงตามหลังจ่าฝูงอย่างบาเยิร์น มิวนิคอยู่ 9 คะแนน ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่สำคัญในการลุ้นแชมป์หลังจากแสดงให้เห็นฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งในสองนัดที่ผ่านมา – โดยเริ่มจากการถล่มบียาร์เรอัลในแชมเปียนส์ลีก และเอาชนะเลเวอร์คูเซ่นในบุนเดสลีกาอย่างหวุดหวิด – ดอร์ทมุนด์เข้าสู่การแข่งขัน DFB-Pokal กับคู่แข่งเดิมด้วยความมุ่งมั่นที่จะรักษาโมเมนตัมของพวกเขาไว้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ ตกเป็นเหยื่อของการแก้แค้นที่สำเร็จของคู่แข่งและต้องตกรอบการแข่งขัน

ในการแข่งขันนี้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ใช้แผนการเล่นแบบคลาสสิก 3-4-3 โดยมีแนวรุกสามคนเป็น อเดเยมี, ฟาบิโอ ซิลวา และ ชุควูเซ่ หน้าที่ในแดนกลางรับการดูแลโดย เรอุส, นเมชา, จู๊ด เบลลิงแฮม และ แดเนียล สเวนส์สัน ซึ่งทำหน้าที่ในการสร้างเกมรุก สามกองหลังประกอบด้วย เอ็มเร่ ชาน, แอนตัน และ ชล็อตเตอร์เบ็คโดยมีโคเบลเป็นผู้รักษาประตูอยู่หน้าประตู ที่น่าสังเกตคือ เบเยอร์, จิราซี และกรอสส์ ถูกจัดให้อยู่ในม้านั่งสำรอง รอโอกาสลงสนาม

สิบนาทีหลังเริ่มการแข่งขัน ฟาบิโอพยายามยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่ลูกยิงของเขาถูกกองหลังสกัดไว้ได้ จากนั้นในนาทีที่ 17 ทาปโซบาปรับท่าทางภายในเขตโทษก่อนจะยิง แต่ลูกยิงของเขาพุ่งออกข้างเป้าหมายไปในนาทีที่ 26 เนห์ก้าพยายามยิงต่ำจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลเฉียดเสาออกไป Dortmund เสียประตูในนาทีที่ 34 เมื่อมาซาได้รับบอลทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษและยิงเข้าไป ทำให้แฟนเจ้าบ้านเงียบกริบ ในนาทีที่ 40 อเดเยมีมีโอกาสทอง เมื่อเขาอยู่ไม่มีตัวประกบในกรอบเขตโทษ แต่การยิงของเขาถูกเคลียร์ออกไปได้สำเร็จ เมื่อจบครึ่งแรก ทีมเจ้าบ้านตามหลังอยู่ 0-1
ครึ่งหลังเริ่มขึ้น และในนาทีที่ 56 เนห์มกาพยายามยิงไกลอีกครั้ง ซึ่งผู้รักษาประตูสามารถปัดออกไปได้ ในนาทีที่ 61 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นทำการเปลี่ยนตัว ส่ง ชิค และ มาลิก ทิลล์มัน ลงสนามแทน เทอร์เรียร์ และ โคฟาเน่ การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยเติมความสดใหม่ให้กับทีมเลเวอร์คูเซ่น ไม่นานหลังจากนั้น เทอร์เรียร์ก็ยิงเข้าประตูได้จากการยิงระยะประชิด แต่ประตูถูกยกเลิกเนื่องจากล้ำหน้าในนาทีที่ 72 ความพยายามโหม่งของชิคก็ถูกปฏิเสธอีกครั้ง การยิงไกลของชล็อตเตอร์เบ็คในนาทีที่ 77 พุ่งเฉียดเป้าหมายออกไป ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ความพยายามโหม่งของอาเดเยมีก็หลุดออกนอกกรอบ ทำให้พลาดโอกาสในการตีเสมอ สุดท้ายโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างน่าผิดหวัง 0-1 ต่อไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จบเส้นทางในศึกเดเอฟเบ โพคาล

แม้ว่าโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์จะครองบอลถึง 58% และยิงประตูถึง 20 ครั้งตลอดทั้งเกม แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของคู่แข่งได้ ในทางกลับกัน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นคว้าชัยชนะไปได้ด้วยโอกาสยิงเพียง 6 ครั้งเท่านั้น ต้องยกความดีความชอบให้กับมาซซ่าที่ยิงประตูชัยได้อย่างเด็ดขาด ในเกมนี้ มาซซ่าได้กลายเป็นฮีโร่ผู้พาเลเวอร์คูเซ่นคว้าชัยชนะอย่างแท้จริง นับเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ทีมดอร์ทมุนด์ซึ่งมีผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์มูลค่ากว่า 500 ล้านยูโร กลับไม่สามารถเปลี่ยนความเหนือกว่าในสนามให้เป็นประตูได้ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ดอร์ทมุนด์เสียโอกาสสำคัญในการผ่านเข้ารอบเท่านั้น แต่ยังเผยให้เห็นจุดอ่อนของทีมในการใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาสำคัญอีกด้วย ในอนาคต พวกเขาจำเป็นต้องพัฒนาความสามารถในการปรับตัวและประสิทธิภาพในการโจมตีให้ดียิ่งขึ้น


